วันพุธที่ 22 พฤษภาคม พ.ศ. 2556

บ้านคน..แมว..ปลาและเต่า

ซอยสวนผัก 43 มีบ้านเล็กๆ หลังหนึ่ง ซึ่งมีส่วนผสมของความร่วมสมัยจากวัสดุทั่วไป อย่างคอนกรีตเปลือย ไม้ และเหล็ก ที่อยู่ร่วมกันได้อย่างกลมกลืน เมื่อพิจารณาดูอีกทีก็พบว่าผนังกับรั้วบ้านเป็นหนึ่งเดียวกัน และส่วนบนของรั้วยังมีตะแกรงเหล็กติดอยู่แน่นหนา เหมือนมีเกราะป้องกันภัยเต็มพิกัด
   
 

คุณแมว วราภรณ์ พรหมิกบุตร เจ้าของบ้านผู้เป็นมัณฑนากรที่ออกแบบและตกแต่งบ้านหลังนี้เองทั้งหมด บนเนื้อที่เพียง 50 ตารางวา ให้อยู่ในงบประมาณไม่เกินสองล้านบาท ทำให้ต้องใส่ใจในทุกรายละเอียด ตั้งแต่การเลือกวัสดุที่เรียบง่าย ราคาประหยัด แล้วนำมาประยุกต์ให้ดูดีด้วยจินตนาการของการออกแบบ จากความต้องการใช้เนื้อที่เล็กๆ ให้เกิดประโยชน์สูงสุด จึงสร้างบ้านเต็มเนื้อที่อย่างถูกต้องตามที่กฎหมายกำหนด  โดยเว้นระยะห่างด้านที่ติดถนนออกไป 1 เมตร ทำเป็นกำแพงที่ไม่มีช่องเปิด อีกด้านที่ติดกับบ้านข้างๆ เว้นระยะที่ว่างไว้ 2 เมตร แล้วค่อยสร้างผนังบ้าน เนื่องจากบ้านนี้เลี้ยงแมวไว้ 8 ตัว จึงต้องแบ่งพื้นที่ระหว่างคนกับแมวออกเป็นสัดส่วนให้ชัดเจน โดยไม่ต้องขังแมวไว้แต่ในกรง จึงออกแบบตะแกรงเหล็กติดอยู่บนรั้ว ป้องกันไม่ให้น้องเหมียวออกไปพบปะทักทายกับสุนัขข้างบ้าน
 
 

เมื่อเข้ามาในตัวบ้านพบว่ามีทั้งหมดสามชั้น พื้นที่ชั้นล่างแบ่งเป็นสองส่วน ส่วนแรกจากทางเข้าหน้าบ้านจะเป็นโถงอเนกประสงค์ ถัดไปจะมีประตูเข้าบ้านอีกชั้นหนึ่ง นำไปสู่ส่วนที่สองซึ่งมีความสูงของฝ้าเพดานเป็นดับเบิ้ลสเปซ ล้อมรอบด้วยกำแพงสร้างความเป็นส่วนตัว บริเวณนี้มีบ่อน้ำขนาดเล็กอยู่ตรงกลางหน้าห้องนอน ถัดไปเป็นส่วนรับประทานอาหารและครัว โดยเก็บซ่อนอุปกรณ์เครื่องครัวให้อยู่ในตู้อย่างเป็นสัดส่วน
  


ขึ้นไปที่ชั้นสองเป็นส่วนรับแขกและห้องทำงาน เนื่องจากงานด้านการออกแบบต้องใช้จินตนาการ ห้องทำงานที่อยู่ด้านบนจะทำให้สามารถมองเห็นทัศนียภาพมุมกว้างของบริเวณรอบ นอกได้ดี ช่วยให้รู้สึกผ่อนคลายในระหว่างวัน  สำหรับการตกแต่งก็เป็นแบบเรียบง่ายแต่มีสไตล์ด้วยการซ่อมแซมเฟอร์นิเจอร์เก่าให้ดูดี และที่พิเศษคือด้านบนของผนังจะมีช่องกระจกที่สามารถมองเห็นชั้นสาม ซึ่งเป็นที่อยู่ของบรรดาน้องเหมียวโดยเฉพาะ จนใครๆ ที่มาเยี่ยมตั้งชื่อให้ว่า "คอนโดแมว" เจ้าของบ้านยังออกแบบทางเชื่อมให้แมวเดินไปยังที่ต่างๆ ในบ้านและนอกบ้านได้อย่างอิสระเป็นสัดส่วนแยกออกจากคน โดยไม่สามารถเข้ามาได้ถ้าคนไม่เปิดให้เข้ามา แต่ไม่ต้องเป็นห่วงว่าแมวจะเหงาหรือคิดถึงเจ้านาย เพราะในแต่ละมุมจะมีช่องกระจกให้ทั้งคนทั้งแมวมองเห็นกันได้ตลอด โดยไม่รบกวนกัน

ชั้นล่างของบ้านส่วนที่มีหลังคาสูงแบบดับเบิ้ลสเปซ สร้างความรู้สึกโปร่ง โล่ง ถัดไปเป็นบันไดขึ้นชั้นบนที่แสดงโครงสร้างเหล็กผสมกับไม้ได้อย่างลงตัว ใช้ราวบันไดเหล็กกั้นนอกจากปลอดภัยแล้ว ยังช่วยไม่ให้บริเวณนี้ดูทึบตัน

ส่วนรับประทานอาหารและเคาน์เตอร์อ่างล้างที่เหมือนอยู่นอกบ้านแต่มีหลังคาปิดมิดชิด เปิดโล่งเฉพาะด้านหลังอ่างล้าง

จากชั้น 2 มองลงมายังด้านล่าง มีบ่อน้ำเล็กๆ สำหรับปลาแรดที่เพื่อนข้างบ้านให้มา เลี้ยงมานานกว่า 16 ปีแล้ว และเต่าอีก 3 ตัว โดยหลานให้มา 2 ตัว เพราะเลี้ยงไม่ไหว ส่วนอีกตัวเก็บจากข้างถนน สังเกตุตู้ด้านขวาที่มีมุมครัวทั้งหมดซ่อนอยู่ด้านใน

จากมุมนั่งเล่นในห้องนอนมองผ่านไปยังโถงของบ้าน มองเห็นบ่อน้ำที่เลี้ยงปลาและเต่า แม้ผนังจะไม่มีช่องเปิด แต่ด้านบนเปิดโล่งให้ลมพัดเข้ามาเย็นสบายมาก พื้นบ้านก็รื้อมาจากบ้านเก่า

จากโถงทางเข้าชั้น 2 มองเห็นมุมพักผ่อน-รับแขก และห้องทำงาน

 มุมรับแขกหน้าห้องทำงานบนชั้น 2 วางเก้าอี้ไม้เก่าทำสีใหม่กับโต๊ะกลางที่ทำง่ายๆ โดยนำกระจกมาวางบนกระถางคอนกรีต

ภายในห้องทำงานตกแต่งอย่างเรียบง่าย สังเกตุช่องกระจกบนผนัง (ขวาบน) เป็นช่องที่ให้คนและแมวมองเห็นกันและกัน

บนพื้นที่ชั้น 3 ที่เรียกเล่นๆ ว่า "คอนโดแมว" นำตู้โชว์จากบ้านเก่ามาติดตั้งบานปิดลูกกรงในบางช่อง สำหรับขังแมวที่ป่วย

บันไดนอกบ้านสำหรับให้แมวขึ้น-ลงจากคอนโดแมวไปยังส่วนต่างๆ ของบ้าน โดยทำเป็น 2 บันได ป้องกันแมวทะเลาะกันแล้วแย่งกันขึ้น-ลง

ภาพตัดตามแนวขวางและตามแนวยาว

Credit
รื่อง :  "พงศ์ธร รัตนประทีป"

ภาพ :  สิทธิศักดิ์ น้ำคำ

เจ้าของ-ออกแบบตกแต่ง  :  คุณวราภรณ์   พรหมิกบุตร








ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น